คินดะอิจิยอดนักสืบ 20 ตอน ข้างหลังบานประตู เขียนโดย โยโคมิโซะ เซชิ แปลโดย ชมนาด ศีติสาร
คาโยโกะ สาวบาร์ช้ำรักเพิ่งถูกแย่งคนรักไปจากอก วันหนึ่งเธอต้องเผชิญเหตุไม่คาดฝัน เมื่อพบว่าหญิงผู้เป็นศัตรูหัวใจกลายเป็นศพ ไม่ไกลนักมีปิ่นปักหมวกเปื้อนเลือดปริศนาตกอยู่ พร้อมด้วยเศษจดหมายข้อความประหลาด "จงเคาะเถิด แล้วประตูจะเปิดให้ท่าน"…
จดหมายลงท้ายด้วยชื่อคนซึ่งคล้ายจะเป็นอดีตแฟนหนุ่ม คาโยโกะเป็นห่วงคนรัก จึงขอร้องให้คินดะอิจิช่วยสืบ แต่คดีกลับซับซ้อนเกิดคาด ด้วยพัวพันกับผู้คนมากหน้า หนำซ้ำแต่ละคนยังเก็บงำความลับ นักสืบจึงต้องปวดหัวหนักกว่าจะได้เบาะแสแน่นอน นำไปสู่การค้นพบความจริงซึ่งยากเกินจะคาดเดา
อนเมียวจิ นักสืบกำมะลอ เขียนโดย อามาโนะ โชโกะ แปลโดย อาคิรา รัตนาภิรัต
"ร้านอนเมียวเปิดแล้ว" เชิญเร่เข้ามาใช้บริการสารพัน ทั้งทำนายชะตา ดูดวงความรักและขับไล่วิญญาณ อนเมียวจิกำมะลอ (?) แห่งเมืองโอจิ ดินแดนสุนัขจิ้งจอก ขอรับประกันความพึงพอใจ
หนุ่มน้อยชุนตะเป็นลูกครึ่งจิ้งจอก ผู้แฝงตัวใช้ชีวิตกับมนุษย์ธรรมดา แต่คืนวันอันแสนสงบสุขกลับเปลี่ยนเป็นยุ่งเหยิง เมื่อจับพลัดจับผลูมาช่วยงานอนเมียวจิหน้าหล่อสุดใจแต่นิสัยเสียสุดขั้ว
ทุกวันต้องเหนื่อยปะทะฝีปากกับเจ้านายมากเล่ห์ก็แทบแย่แล้ว ปัญหาพิสดารยังไหลมาเทมาให้ตามแก้ราวกับเปิดสำนักงานนักสืบ ทั้งเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ สืบหาพินัยกรรม ตามหาคนหนีออกจากบ้าน ! แต่ถึงภารกิจสืบสะเด็ดเรื่องชาวบ้านจะยุ่งวุ่นแค่ไหน ก็ไม่น่าปวดหัวเท่าหวิดจะถูกเปิดเผยความลับสุดยอด งานนี้คู่หูต่างขั้วเลยจับมือพักรบกันชั่วคราว เพื่อปฏิบัติการตามล้างตามเช็ดปัญหาชีวิตสุดอลเวง !
กลลวงเทพจิ้งจอก เขียนโดย โอตสึ อิจิ แปลโดย พรพิรุณ กิจสมเจตน์
สองเรื่องสั้นชุดล่าสุดจากนักเขียนเรื่องลึกลับ แฟนตาซี และสยองขวัญ โอตสึ อิจิ ผู้แจ้งเกิดในวงการตั้งแต่อายุ 17 ด้วย ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉันอันเป็นผลงานเล่มแรก ตามด้วยนิยายคุณภาพซึ่งคุณเคยติดใจมาแล้ว
A MASKED BALL ผมเพียรหาห้องน้ำเงียบสงบ ไว้เป็นแหล่งสูบบุหรี่พักใจในโรงเรียน...
วันหนึ่ง มีคนมือบอนฝากคำเตือนไว้บนผนังห้องสุขาว่า "ห้ามขีดเขียนผนัง" ทำเอาผมกับอีกสองสามคนชักคันมือบ้าง เราจึงเริ่มใช้ข้อความโต้ตอบกัน มิตรภาพเกิดขึ้นทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่นึกเลยว่าข้อความในสวรรค์น้อย ๆ แห่งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุระทึกขวัญให้พวกผมต้องจดจำไปอีกนาน…
กลลวงเทพจิ้งจอก เพียงเพราะคำผูกพันสัญญา ยางิจึงต้องพบชะตากรรมน่าเศร้า
ทั่วร่างเขาปกคลุมด้วยผ้าพันแผล ไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าแท้จริง แต่แล้วกลับเกิดเรื่องไม่คาดฝัน บังคับให้เขาต้องยอมเผยโฉมที่ปิดบังไว้...ชายหนุ่มจำต้องเร้นกายจากผู้คน เร่ร่อนตามลำพังโดดเดี่ยว วันหนึ่งยางิล้มฟุบข้างถนน เด็กสาวคนหนึ่งช่วยไว้ ซ้ำยังเอ่ยชวนให้อยู่พักรักษาตัว ไมตรีจากเธอทำให้เขาเริ่มเปิดใจ แอบหวังว่าจะได้หวนสู่ชีวิตปกติ
สำนักพิมพ์ มติชนบุ๊คส์
แปซิฟิก สมรภูมิเดนตาย สหายร่วมรบ เขียนโดย ยูจีน บี. สเล็ดจ์ แปลโดย ฉัตรนคร (องคสิงห์) เขมาสารี
จากซีรีส์ดังช่อง HBO โดย ทอม แฮงก์ส และสตีเฟ่น สปิลเบิร์ก สู่บันทึกความทรงจำในรูปแบบหนังสือ “แปซิฟิก สมรภูมิเดนตาย สหายร่วมรบ” จากสิ้นเสียงสุดท้ายของลมหายใจ
"สงครามเป็นเรื่องโหดร้ายไม่มีเหตุผล น่าอับอาย ไร้เกียรติ เป็นความสูญเปล่าอย่างไม่น่าให้อภัย การสู้รบที่ยังคงทิ้งร่องรอยอันลบไม่ออกไว้ในใจผู้ที่ถูกบังคับให้ต้องทนรับ มัน ปัจจัยเดียวที่ช่วยไถ่ถอนก็คือความกล้าหาญอย่างไม่น่าเชื่อของเหล่าสหาย รวมถึงความเสียสละที่มีให้แก่กันและกัน ทว่าความรักและความสามัคคีนั่นเองที่ช่วยประคับประคองเราไว้"
หากสงครามคือ การปล้นชีวิตมนุษย์ที่ไม่ใช่เรื่องของเกียรติหรือศักดิ์ศรี แต่เป็นความโหดร้ายซึ่งมนุษย์สองฝ่ายใช้เป็นข้ออ้างเพื่อลุกขึ้นมาเข่นฆ่า กันเอง...
ด้วยเหตุนี้ ยูจีน บี. สเล็ดจ์ นาวิกโยธินสหรัฐฯ ผู้มุ่งมั่นอยากออกรบให้ทันก่อนสงครามสิ้นสุด จึงได้ถ่ายทอดเรื่องราวบทบันทึกจากประสบการณ์ในสมรภูมิเปลีลิวและโอกินาวาใน สงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งส่วนของการฝึกและการรบ ไว้ในเศษกระดาษ และสอดไว้กับคัมภีร์ไบเบิลฉบับพกพา แม้ว่าสงครามจะจบไปแล้วกว่า 6 ทศวรรษ แต่ภาพหลอนของสงครามยังติดตรึงอยู่ในใจของเขา
กระทั่งภรรยาได้แนะนำให้เขาเขียนเพื่อระบายความเจ็บปวดนี้ออกมา ซึ่งได้รับความสนใจและตีพิมพ์บันทึกความทรงจำในชื่อ With the Old Breed เป็นครั้งแรกในปี 1981 และมีการตีพิมพ์ซ้ำเรื่อยมา กระทั่งในปี 2007 ทอม แฮงก์ส และสตีเฟ่น สปิลเบิร์ก เลือกหนังสือเล่มนี้ กับ Helmet for My Pillow ของ โรเบิร์ต เลคกี้ มารวมสร้างเป็นซีรีส์ The Pacific ทางช่อง HBO และสำนักพิมพ์มติชนได้นำมาแปลเป็นภาษาไทยโดย ฉัตรนคร (องคสิงห์) เขมาสารี ในชื่อ “แปซิฟิก สมรภูมิเดนตาย สหายร่วมรบ"
จากบันทึกความทรงจำ เขาได้บอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามรบขณะที่เขาเป็นพลทหาร ต้องวิ่งฝ่าห่ากระสุนและเห็นเพื่อนตายไปต่อหน้าต่อตา เรื่องราวของเขาไม่ได้เสกสรรปั้นแต่งให้เกินจริง เขากล้าเปิดเผยถึงอีกด้านมืดของมนุษย์ที่เกิดจากความโหดร้ายของสงคราม ซึ่งสามารถเปลี่ยนให้เด็กหนุ่มใสซื่อ กลายเป็นคนด้านชากระหายเลือด พร้อมจะทำเรื่องเลวร้ายและไร้มนุษยธรรมได้ทุกเมื่อ และตัวเขาเองก็เกือบจะกลายเป็นเช่นนั้น หากไม่ได้เพื่อนร่วมรบผู้หวังดีและมีความศรัทธาในพระเจ้าคอยดึงรั้งเอาไว้
นอกจากนี้ ยังฉายให้เห็นสภาพแวดล้อมอันหฤโหดที่เหล่าทหารต้องเผชิญ ความเด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่นของบรรดาทหารหาญ ฉากการห้ำหั่นอันน่าตื่นเต้นหวาดสยอง ภาพเลือดและศพกระจายเกลื่อนสมรภูมิ แต่ในทางกลับกันก็ยังฉายให้เห็นภาพความเสียสละ ความสามัคคีของเพื่อนมนุษย์ผู้ร่วมรบเพื่อช่วงชิงชัยชนะแห่งสันติภาพ ทว่าสิ่งเหล่านี้หากได้มาต้องแลกด้วยชีวิต
แม้ว่าสงครามจะจบสิ้นไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเหลือทิ้งไว้คือ "คราบน้ำตา" ของชนรุ่นหลังที่รำลึกถึงเหล่าทหารกล้า หากไม่มีพวกเขาในสมรภูมิรบคงไม่มีสันติภาพเกิดขึ้นเป็นแน่...
คนสองวิญญาณ โดย สรจักร
นอกจากนี้ยังมีผลงาน "เรื่องจริงจากคดีดัง" ที่เขย่าขวัญไม่แพ้กัน อาทิ ฆาตกรในเสื้อกาวน์, ฆาตกรสาวเสื้อกาวน์เลือด, จิตกาธาน, กามวิปริตจิตวิปลาส, วิปลาสฆาตกรรม และนักฆ่าบ้ากาม
คนกับผี ดีกับชั่ว แฝงตัวอยู่ในใจ ซ่อนกายอยู่ในจิต คอยกำกับความคิดให้ลงมือ...กระทำ ใครอาจเห็นวิญญาณที่สอง ล่องลอย วนเวียน แล้วม้วนตัวซุกซน...รอเวลาแผลงฤทธิ์ อย่าเผลอไผล อย่าได้คลาดสายตา ถึงเวลา...12 เรื่องสั้นหักมุม-เขย่าขวัญ-สั่นประสาท ออกอาละวาดแล้ว ใครไม่ระวังตัว...โดน...ติดหนึบ!
ฆาตกรรมหลังเลิกเรียน โดย ชนินทร อุลิศ
หลังจาก "เอกชัย" พลั้งมือทำร้าย "ภาคภูมิ" เพื่อนร่วมชั้นอย่างไม่ยั้งมือ เขาก็พบว่าภาคภูมิตายเสียแล้ว! แต่หลังจากนำศพไปซ่อนเพื่อรอการทำลาย ร่างของภาคภูมิก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย แล้วเขาจะทำอย่างไร...นอกจากตามหาศพให้ได้ก่อนจะมีคนมาพบเห็น
ใครกันเล่าที่อยู่เบื้องหลังการขโมยร่างไร้วิญญาณไปซุกซ่อน อาจเป็นผู้ไม่หวังดีชักใยกลั่นแกล้ง หรืออาจเป็นศัตรูที่รอคอยการแก้แค้น หวังเพียงคนร้ายคงไม่ใช่ "ยุวดี" หญิงสาวที่อยู่เคียงข้างเสมอมา แม้เขาจะรู้สึกสังหรณ์ใจทุกครั้งที่สบตาเธอ
เสียน้ำตาให้หมา โดย ชาติ ภิรมย์กุล
เรื่องราวของปั๊ก-ปอน ตอนเลิกปรองดองกับ(โรค)หัวใจ ทั้งโฮทั้งฮา...โฮ่ง ๆ ความร่าเริง น่ารัก และแสนรู้ ของ "ปั๊ก-ปอน" สุนัขที่เป็นตัวละครเอกในเรื่อง คนเลี้ยงหมา อยู่กับหมาและ วันของหมา
ชาติ ภิรมย์กุล เล่าจากความทรงจำที่ยังติดตรึงใจ ด้วยหัวใจของคนรักหมา แม้จะเจ็บปวดใจ แม้จะต้อง "เสียน้ำตาให้หมา" อีกครั้ง ซาบซึ้งและสนุกสนานเฮฮาปน ๆ กันไป อ่านแล้วออกอาการ "หัวเราะทั้งน้ำตา" โดยไม่รู้ตัว แถมท้ายด้วยเรื่องราวของหมาสารพัดพันธุ์ พร้อมภาพน่ารัก ๆ ที่คนรักหมาไม่ควรพลาด
ที่มา http://hilight.kapook.com/view/52115
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น